วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ กับค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่าย ???

สาขา เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ  อาจจะไม่แน่นอนทุกปี แต่ประมาณให้ว่า 15,000 บาท ต่อ เทอม
ยังไม่รวมค่ากิจกรรมอื่น ๆ (ถ้าเป็นเด็กต่างจังหวัดเตียมไว้เลย 30,000 บาท) อันนี้บวกค่า กิจกรรม ค่าเทอม ค่ารถให้ด้วย
*** ในปีแรกที่สมัคร เค้าจะเหมายจ่าย มีค่าเสื้อผ้า ค่าสมุด ให้ด้วย ในค่ากิจกรรมนะ



รูปบรรยากาศ ตามอาคารต่าง ๆ



ดูเพิ่มเติม
http://www.rmutr.ac.th/
http://reg.rmutr.ac.th/registrar/home.asp

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ จบมาแล้วทำงานอะไร


จบมาแล้วทำงานอะไร ???

สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตรmujouh จะเน้น การเขียนโปรแกรม และ
การสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย Data Communication and Network จะเรียนจับฉ่าย เรียนทั้ง วิทยาการคอมพิวเตอร์ และ บริหารผู้จัดการ และที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวไม่มีงานทำ

อาชีพที่เกี่ยวข้องมี
นักวิเคราะห์ระบบงาน
ผู้บริหารจัดการระบบฐานข้อมูล
นักการตลาดและผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ผู้สนับสนุนและตรวจสอบระบบสารสนเทศ
นักเขียนโปรแกรม
นักวิเคราะห์ระบบ 
ผู้ดูแลระบบเครือข่าย/ฐานข้อมูล/เว็บไซต์ 
ผู้ตรวจสอบระบบสารสนเทศ
และถ้าประสบการณ์การการทำงานมากขึ้นก็เป็นผู้บริหาร, ที่ปรึกษา
หรือจะเป็นฟรีแลนซ์ รับจ้างทำเว็บ ตามหน่วยงาน

เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ กับเทียบโอน

เทียบโอนคืออะไร ???

คืออีก หลักสูตร ที่รับเฉพาะ ผู้ที่จบ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส) มาเรียนต่ออีก 2 ปี 1ซัมเมอร์  บางรายอาจ 2 ซัมเมอร์ (ส่วนน้อย พวกไม่ขยัน) ซึ่งแน่นอน คุณสมบัติ หรือผู้มารียน ก็ต้องจบสายคอมพิวเตอร์ธุรกิจมาโดยตรง ซึ่งเทียบโอนจะได้ระดับการเข้ามาในปีแรกเป็น  ปี 3 ซึ่งหมายความว่า ถึงเราจะเพิ่งเข้ามาแต่ก็มีนิติภาวะของ junior  แปลว่า นักศึกษาปี 3 (third-year) ถ้าเป็นหลักสูครปกติ เป็นช่วงเวลาที่ต้องเลือกวิชาเมเจอร์กันแล้ว นอกจากนี้หลายๆคนอาจเลือกที่จะไปสมัครโครงการนักศึกษาฝึกงาน (internship) เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่หลักสูตรเทียบโอนของที่นี่ไม่มีฝึกงานเพราะสามารถนำเอาการฝึกงานตอน ปวส มาเทียบโอนได้เลย

เทียบโอนมี 2 อย่างที่เราต้องเทียบคือ
เทียบในจะนำหลักสูตร ปวส มาเทียบ รายวิชาที่สามารถย้ายโอนได้เลยโดยไม่ต้องเรียน
เทียบนอกคือ การสอบข้อเขียนในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งหน่วยกิตทั้งหมดจะเก็บ 138 หน่วยกิต ถ้าเราเทียบในได้เยอะ  และเทียบนอกก็สอบได้เยอะ เราก็จะเรียนน้อยลง ซึ่ขอบอกว่าในห้องเดียวกันนั้น จะเรียนไม่เหมือนกันนะค่ะ เพราะบางคนเทียบได้ บางคนเทียบไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ เก็บหน่วยกิตกันไป

ตัวอย่าง

จากรูป คือ หน่วยกิตทั้งหมดที่ต้องเก็บ 138 หน่วยกิต
ที่เรียนไปแล้วปี 3 ทั้งเทอม 1 เทอม 2 , เทียบนอกและเทียบในได้ 87 หน่วยกิต
เพราะฉะนั้น เหลืออีก 51 หน่วยกิต ในปี 4 ที่เราต้องเก็บ


รายละเอียดเพิ่มเติม http://reg.rmutr.ac.th/registrar/program_info.asp

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ กับ พื้นฐาน

เรียนเทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง ?




ขอบอกว่าที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสิทร์ มี 2 สายให้เลือก คือ (สาระสนเทศ กับ มัลติมิเดีย) ชอบสายไหนก้ศึกษาแนวนั้น ส่วนเว็บไซด์ต้องลงเรียนทั้ง 2 สายอยู่แล้วนะค่ะ


เข้าคำถามที่ว่าต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง

ถ้าน้องที่จบจากสาย คอมพิวเตอร์ธุรกิจกิจ หรือ การพัฒนาเว็บเพจ ฯ  พวกนี้ก็จะมีพื้นฐาน พร้อมมาต่อ
ยอดโดยตรงอยู่แล้ว ทั้ง
- Network
- IT
- Web
- Graphic
- Database
- Programming

ถ้าเป็นสายอื่นๆ คงจะมีแค่พื้นฐานเบื้องต้นแค่ IT  ถามว่ามาเรียนได้มั๊ย ??
ถ้าอยากเปลี่ยนสาย และมีใจชอบด้านนี้ก็เรียนได้ค่ะ เพราะการที่เรามีใจชอบในด้านนี้ เราก็จะหมั่นหาความรู้เพื่อให้ทันเพื่อนเป็นอัตโนมัติอยู่แล้ว เพราะคิดว่าต้องทำเป็นสองเท่าของเพื่อนที่เรียนสายคอมพิวเตอร์มา ดีซะอีก ได้รู้ทั้งสายเก่าที่เรียนมาและ สาย IT อีก ส่วนผู้ที่ไม่ได้เรียนสายที่เกี่ยวข้องมา แล้วก็ไม่ได้มีใจรัก ไม่มีหัวด้านนี้ ก็คิดเองละกันนะว่าจะตามทันมั๊ย

เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ เรียนยากมั๊ย


แต่ละมหาวิทยาลัย หลักสูตรไม่เหมือนกันเลยนะค่ะ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสิทร์ วิทยเขตวังไกลกังวลจะเรียน

รูปเด็กสาระ นอกจากมีความฉลาดยังมีความเกรียน


 1. เรียนให้ถึงราก เช่น เรียนเขียนโปรแกรม ไม่ใช่เรียนว่าภาษานี้ คำสั่งนี้ทำอย่างไร แต่เรียนว่าหลักการเขียนโปรแกรม เป็นอย่างไร เรียนให้เข้าใจ อัลกอริธึม เมื่อเรียนถึงรากฐาน เวลาทำงานจริงๆ จะเลือกภาษาอะไรในการเขียนก็ย่อมทำได้ บางบริษัทใช้ JAVA บางบริษัทใช้ ABAP บางที่ใช้ PHP บางที่ใช้ .ASP บางที่ใช้ C++ ถ้าน้องเรียนถึงราก ไม่ต้องไปเรียนมันสักภาษา แต่น้องจะสามารถเรียนรู้ทุกภาษาการโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว 


2. เรียนให้รู้จักวิเคราะห์ นักเทคโนโลยีสารสนเทศที่ดี ไม่ว่าจะสายเน็ตเวิร์ก สายดาต้าเบส สายโปรแกรมเมอร์ หรือสายบริหาร ต้องรู้จักวิเคราะห์ให้เป็น แยกแยะ ปัญหา และออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหาให้ได้ จำไว้ว่าทุกปัญหาทางไอที รากฐานมาจากการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทั้งสิ้น ศาสตร์ทั้งหมดของโลกไอที มาทีหลังเสมอ หมายความว่า ปัญหาทั้งหมดที่ไอทีแก้ไขได้นั้น มันมีหลักการและวิธีการแก้ไขอยู่แล้วแม้ไม่มีไอทีเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เวลาคิด วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา จงเอาไอทีออกไป แล้วแก้ไขปัญหาด้วยหลักพื้นฐาน เมื่อได้แนวทางแก้ไขแล้ว ค่อยเอาไอทีเข้ามาจับ ปรับ ให้เหมาะสม

-------------------------------------------------------

กลับมาตอบคำถาม เรียนยากไหม

จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย 

ยากคือน้องอาจไม่มีใจรักด้านนี้มาเรียนตามเพื่อน หรือไม่รู้จะเรียนอะไร คิดว่าสายเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แล้วที่บ้านมีคอมก็มาเรียนแบบไม่ได้วิเคราะห์ตัวเอง และอีกประเด็นคือ ขี้เกียจ ไม่ทำงานส่ง พวกประเภทชอบพอกหางหมู พวกนี้ก็จะบอกว่ายาก งานเยอะ


ง่ายคือ คนที่มีหัวทางด้านนี้อยู่แล้วคือ ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อาจารย์อาจไม่ได้สอนก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพื่อนถามอะไรก็ตอบได้ รอบรู้ว่างั้น เป็นคนทันโลกติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา และแน่นอน ความขยันมันก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ คือรู้ตัวเองว่ามาเรียนทำไม จบแล้วคือมีอาชีพในฝันรอไว้แล้ว ได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึงนะ



อาจะจะสงสัยว่าแล้วผู้เขียนบล็อคนี้เป็นประเภทไหน ขอบอกว่ากลางๆ มีหัวด้านนี้แต่ไม่ถึงกับรอบรู้ทุกเรื่อง แต่ก็ไม่พอกหางหมู ส่งงานตามกำหนดตลอด นะค่ะ มีคำถามอะไรส่วนมากก็จะถามอาจารย์โดยตรงเลย อย่ากลัวการเข้าหาอาจารย์นะ เพราะเข้าหาบ่อย ๆ ก็เหมือนการให้อาจารย์รับรู้ความคืบหน้าและ 90% งานของคนที่เข้าหาอาจารย์มักจะออกมาเหนือกว่าพวกที่ อยู่เฉยๆ เหมือนเก่งแต่ก็ไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นถามทันทีเมื่อไม่เข้าใจ คำถามโง่ๆ ยังถามได้ เพราะอาจารย์ที่นี้ใจดี บางทีการที่เราถามยังเป็นกุศลให้เพื่อน พวกไม่รู้และไม่กล้าถาม เราคิดลองคิดว่าเรามาเอาความรู้ แลกกับการจ่ายค่าเทอม ถ้าไม่เคลียร์ เราก็ขาดทุน ก็เคยชอบนะเวลาอาจาย์ไม่อยู่ วันนี้หยุด 5555 แต่อยากให้ลองคิดกลับดูใหม่ ว่าเรามาเรียนทำไม จะได้มีเป้าหมายหลัก อะไรควรทำก่อนทำหลัง ไม่ใช้งานจะส่งพรุ่งนี้ นั่งทำคืนนี้ อาจจะเสร็จ แต่คุณภาพอ่ะไม่มี อันนี้ประมาแล้ว อาจารย์ถามก็ตอบไม่ได้ เวลาเค้าก็ให้มาพอสมควร แต่ไม่จัสรรเอง มัวแต่เที่ยว อิิอิแต่ตอนนี้ไม่แล้ว คิดได้แล้ว เลยมาบอกต่อกันนะค่ะ อ่อ ลืมบอกเกรดเฉลี่ย 3.36 นั่นขอสรุปว่าไม่ยากละกันเนอะ

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ เรียนเกี่ยวกับอะไร

คณะบริหาร


ตึกบริหาร อลังมาก

ต้องขอบอกว่า สาขานี้ เกี่ยวข้องกับ IT ถ้าใครเรียนสายอาชีพมา สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจจะมาต่อยอดได้ดีที่สุด ส่วนคนที่สนใจ มีความชอบ แต่ไม่ได้เรียนสาขานี้มา ก็ยังไม่สายสามารถเรียนสาขานี้ได้ สิ่งที่ต้องมีนอกจากความรับผิดชอบ คือ เป็นคนทันข่าวสาร Up Date IT อยู่ตลอดเวลา เพราะเราอยู่กับเทคโนโลยี ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่ไวมาก เช่นการเขียนโปรแกรมยุคแรกๆ ต้องใช้ Dos หน้าต่างดำๆ ที่มีแต่โค้ด พัฒนามาเป็นภาษา HTML ที่มีการจดจำคำสั่งเอง มีฟังก์ชันต่างๆ  แน่นอนการพัฒนาก็ต้อง Support ขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น  อย่าเพิ่งกลัวนะ มันไม่ยากขนาดนั้น ไม่ได้มีแต่เขียนโปรแกรมอย่างเดียว แค่ยกตัวอย่าง หลัก ๆ เราก็จะเรียน

  • การทำเว็บไซต์ พร้อมกับ  Search engine optimization
  • การสร้างฐานข้อมูล
  • การเขียนโปรแกรมบนเว็บ
  • Os, Application, Software
  • E-commerce
  • ระบบเครือข่าย
  • logistics
(นี้จะเป็น Main หลักๆ ที่สายนี้ต้องเจอ ที่เหลือก็เป็นวิชาชีพพื้นฐานและวิชาทางบริหาร) เช่น
  • ภาษาอังกฤษ
  • สถิติ
  • การบริหารจัดการเชิงกลยุลธ์
  • การเป็นผู้ประกอบการ
  • การเงิน ฯลฯ
(วิชาพวกนี้เบสิคมาก)  ใครชอบมาทางด้านนี้อยู่แล้วขอบอกว่า สบายๆ ไม่มีอะไรยาก 




เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะค่ะ Blog นี้จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ สาขาเทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ และให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินของ น้องๆ หรือผู้สนใจมาศึกษาต่อ ก่อนอื่นทางผู้จัดทำขอ แนะนำตัวเองก่อนนะค่ะ
ชื่อ นางสาวสิริศรีวลี  แสงภิบาล (แก้ม)
กำลังศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล
คณะบริหารธุรกิจ
สาขาเทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ ชั้นปีที่ 4 เทียบโอน
เทคโนโลยีสาระสนเทศทางธุรกิจ กับ คำถาม???

วิทยาเขตวังไกลกังวล
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ตั้งอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอ หัวหิน ขอบอกว่าอยู่ใกล้กับ อุทยานราชภักดิ์ เริ่มมีคำถามอีกแล้วใช้มั๊ย
มีที่ให้เที่ยวมั๊ย?
ถ้ามาเรียนจะพักตรงไหน ?
หางานพาสไทม์ทำยากมั๊ย ?

ค่าใช้จ่ายต่อเดือนล่ะ ?